Call Center

02-552-8777

Call Center

02-552-8777

ไวรัสโรต้า (Rotavirus) ตัวการโรคท้องร่วงในเด็ก

โดย พญ.เมย์วดี พัฒนกุล

คำถาม: 1. ไวรัสโรต้าคืออะไร ?

คำตอบ : ไวรัสโรต้า (Rotavirus) เป็นเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงเฉียบพลันในเด็ก โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ถือเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตจากอาการท้องร่วงในเด็กทั่วโลก

คำถาม: 2. อาการของโรคท้องร่วงจากไวรัสโรต้าเป็นอย่างไร ?

คำตอบ :  ผู้ติดเชื้อไวรัสโรต้า มักมีอาการเริ่มต้นด้วยไข้สูง อาเจียน และตามมาด้วยอาการท้องเสียอย่างรุนแรง โดยอุจจาระจะมีลักษณะเป็นน้ำ และอาจเป็นนานตั้งแต่ 3–7 วัน หรือในบางรายอาจยืดเยื้อได้นานถึงหลายสัปดาห์

คำถาม : 3. อาการท้องร่วงจากไวรัสโรต้ามีความรุนแรงแค่ไหน ?

คำตอบ :  อาการท้องร่วงจากไวรัสโรต้าอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสมอย่างทันท่วงที อาจทำให้เกิดภาวะช็อก หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็ก

คำถาม: 4. ไวรัสโรต้า นี้ติดต่อได้อย่างไร?

คำตอบ :  ไวรัสโรต้าติดต่อทางปาก โดยเชื้อไวรัสจะออกมากับอุจจาระของผู้ติดเชื้อ และสามารถแพร่กระจายผ่านทางมือ ของเล่น อาหาร หรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสได้ เชื้อมีระยะฟักตัวประมาณ 0.5–4 วัน

คำถาม: 5.จะสังเกตได้อย่างไรว่าติดเชื้อไวรัสโรต้าหรือแค่ท้องเสียธรรมดา ?

คำตอบ :  ผู้ติดเชื้อไวรัสโรต้ามักมีอาการไข้สูง อาเจียน ตามด้วยอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ โดยไม่มีมูกหรือเลือดปน หากเป็นเด็กเล็ก ควรพิจารณาส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อยืนยันการติดเชื้อ และแยกจากสาเหตุอื่นของโรคท้องเสีย

คำถาม: 6.อาการท้องเสียแบบใดควรรีบมาพบแพทย์

คำตอบ :  ควรรีบมาพบแพทย์หากมีอาการถ่ายเหลวบ่อยครั้ง ดื่มน้ำน้อย หรือรับประทานอาหารได้น้อย ปัสสาวะน้อยลง เด็กมีอาการซึม ตัวเย็น หรือร้องไห้ไม่มีน้ำตา เพราะอาจเป็นสัญญาณของภาวะขาดน้ำที่ต้องได้รับการรักษาโดยด่วน

คำถาม: 7. วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้ามีความสำคัญและปลอดภัยแค่ไหน?

คำตอบ :  วัคซีนป้องกันไวรัสโรต้ามีความปลอดภัยสูงและมีอาการข้างเคียงน้อย ช่วยลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถึงแม้เด็กที่ได้รับวัคซีนยังอาจติดเชื้อได้ แต่จะมีอาการน้อยลง วัคซีนจึงเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันโรคท้องร่วงรุนแรงในเด็ก

คำถาม: 8. มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่น ๆ จากการติดเชื้อไวรัสหรือไม่ ?

คำตอบ :  การติดเชื้อไวรัสโรต้านอกจากจะทำให้เกิดอาการท้องร่วงแล้ว ยังอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้ เช่น ชักจากไข้สูง สมองอักเสบ ภาวะขาดน้ำ เกลือแร่ในเลือดผิดปกติ ภาวะเลือดเป็นกรด หรือลำไส้ไม่สามารถย่อยน้ำตาลแล็คโตสได้

คำถาม: 9.สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโรต้าได้ด้วยวิธีใดบ้าง?

คำตอบ :  วิธีป้องกันที่สำคัญ ได้แก่

ล้างมือให้สะอาดเป็นประจำ

รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่และน้ำดื่มสะอาด

เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะน้ำนมแม่มีภูมิคุ้มกันธรรมชาติ

ให้เด็กเล็กได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโรต้าภายในช่วงอายุ 2–6 เดือน

ข่าวอื่นๆ

ตรวจภายในไม่ใช่เรื่องน่ากลัว

โดย นพ.สุปรีชา เล็กสุวรรณ คำถาม: 1. ตรวจภายในสำคัญอย่างไร ? คำตอบ :  การตรวจภายในจะช่วยค้นหาความผิดปกติของอวัยวะภายในของสตรีและตรว

โรคต้อกระจก (Cataract)

โดย นพ.อิทธิพงษ์ บินอุมา คำถาม: 1. โรคต้อกระจกคืออะไร ? คำตอบ :  การตaคำตอบ : โรคต้อกระจกเกิดจากความขุ่นของเลนส์แก้วตา ซึ่งปกติแล้

มะเร็งปากมดลูก (Cervical Cancer)

โดย แพทย์หญิง พิราพรรณ ธีรมิตร คำถาม: 1. มะเร็งปากมดลูกคืออะไร? คำตอบ :  มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่เกิดขึ้นในเซลล์ปากมดลูกซึ่งอย

ไข้เลือดออก (Dengue fever)

โดย พญ.เมย์วดี พัฒนกุล คำถาม: 1. ไข้เลือดออกคืออะไร? คำตอบ :  ไข้เลือดออกเป็นโรคที่เกิดจากไวรัสเดงกี มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ มียุงลา

Scroll to Top